เรื่องนี้มีที่มาจากเว็บไซต์ SOHA ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวน่าสะเทือนใจของชายคนหนึ่งในประเทศเวียดนาม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันหนึ่ง ขณะชายคนดังกล่าวกำลังจะออกไปทำงาน เขาได้ยินเสียงดังจากห้องน้ำจึงรีบเข้าไป ก่อนจะพบว่าภรรยาของเขานอนหมดสติ ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากแห้งผาก เขาจึงรีบอุ้มเธอขึ้นมาและหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ ด้วยความโชคดีที่เครื่องยังไม่ล็อก
แต่สิ่งแรกที่ปรากฏบนหน้าจอ คือชื่อผู้ติดต่อที่ถูกบันทึกไว้ว่า คนสำคัญ ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่า อาจเป็นบุคคลที่ภรรยาปิดบัง และอาจเกี่ยวข้องกับการนอกใจ อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่แพทย์มาถึง และให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภรรยาจำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากภาวะขาดแคลเซียมและโลหิตจาง
โดยระหว่างที่เธอหลับพักผ่อน ความสงสัยยังคงตามหลอกหลอนชายหนุ่ม เขาจึงตัดสินใจตรวจสอบข้อความในโทรศัพท์เพิ่มเติม สิ่งที่พบคือบทสนทนากับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งถูกบันทึกว่าเป็น แม่แท้ ๆ ขัดแย้งกับข้อมูลที่เขาเคยได้รับว่าแม่ของภรรยาเสียชีวิตไปแล้วนานหลายปี ต่อมา เมื่อภรรยาฟื้น เขาจึงพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับภรรยาอย่างตรงไปตรงมา ก่อนที่ทางภรรยา จะกล่าวว่า พี่มีสิทธิ์รู้ แต่รู้แล้ว พี่ยังอยากอยู่กับหนูอยู่ไหม?
จากนั้น เธอจึงเปิดเผยความจริงว่า ตนไม่ใช่ลูกของพ่อแม่บุญธรรมอย่างที่เคยเล่า แต่ความจริงแล้วเธอเกิดอยู่ในเรือนจำ และถูกรับไปเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เธอเลือกปิดบังเรื่องนี้เพราะกลัวจะสูญเสียทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้น รวมถึงกลัวว่าครอบครัวฝ่ายชายจะรังเกียจ เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า เธอไม่ได้ทรยศสามีแค่กลัวจะสูญเสียชีวิตที่ดีที่พยายามมีมันขึ้นมา
เมื่อได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นจากผู้เป็นภรยา ชายหนุ่ม เล่าว่า แม้จะรู้สึกผิดหวังที่ถูกปิดบัง แต่เขาไม่สามารถโกรธหรือเกลียดภรรยาได้ เพราะสิ่งที่เขารักไม่ใช่ที่มาของเธอ แต่เป็นหัวใจที่เข้มแข็ง และความตั้งใจในการใช้ชีวิตอย่างสุจริตของเธอต่างหาก เขาเลยตัดสินใจให้อภัย และเดินหน้าต่อไปกับภรรยา พร้อมดูแลเธอให้พร้อมสำหรับการมีลูกในอนาคต
แต่สิ่งที่ยังค้างคาใจคือ เขาควรเปิดเผยเรื่องนี้กับครอบครัวของตัวเองหรือไม่ เพราะเกรงว่าหากความลับถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจเหมือนที่เขาเคยเจอ ภรรยาอาจถูกเข้าใจผิดได้ โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวของเขาให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีอย่างมาก
ข้อมูล SOHA
