อุกอาจ! บุกยิงสาวลูกจ้าง อบต. ดับคาร้านชำ คาดปมส่วนตัว-การเมืองท้องถิ่น
เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 7 มิถุนายน ร.ต.อ.สัณห์ปกรณ์ หลุ่ยจิ๋ว รอง สว.สอบสวน สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 99/3 หมู่ 2 ต.ปานัน อ.มายอ จ.ปัตตานี จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา และนำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อลาภ เล็งฮะ ผกก. เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงกองเลือดจำนวนมากบนพื้นบริเวณประตูร้าน ส่วนผู้บาดเจ็บคือ น.ส.มารียะ ลาหิง อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านและร้านขายของชำ ถูกนำส่งโรงพยาบาลมายอในสภาพสาหัส จากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และลำตัว 4 นัด แม้แพทย์จะพยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.มารียะ ทำงานเป็นลูกจ้างฝ่ายการเงินของ อบต.ปะโด อ.มายอ และเปิดร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังจะปิดประตูร้าน มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้ามาประชิดตัวและใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงประมาณ 5 นัด จนล้มลง ชาวบ้านใกล้เคียงออกมาดูเมื่อได้ยินเสียงปืน ก็พบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว จึงรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตในที่สุด
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ต่อลาภ เล็งฮะ ผกก.สภ.มายอ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ หาข่าว และรวบรวมพยานหลักฐานอย่างเร่งด่วน รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางเข้าออก พร้อมประสานหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อกระจายกำลัง ปิดล้อมตรวจค้น และตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ก่อนหน้านี้สามีของผู้ตายซึ่งเป็นแพทย์ประจำตำบลได้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว และผู้ตายได้แต่งงานใหม่แต่สามีทำงานต่างพื้นที่ ผู้ตายเป็นที่รู้จักของชาวบ้านเนื่องจากทำงานฝ่ายการเงินของ อบต.ปะโด ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว ซึ่งพฤติกรรมคนร้ายเหมือนมีความแค้นส่วนตัว หรืออาจเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น ส่วนประเด็นอื่นๆ เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อสรุป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าวันนี้ บรรยากาศที่บ้านของ น.ส.มารียะ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างทยอยเดินทางมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง พิธีฝังศพได้จัดขึ้นตามหลักศาสนาอิสลาม ณ สุสานใกล้บ้านในเวลา 09.30 น. โดยมีญาติและผู้ร่วมงานจำนวนมากเข้าร่วม สามีและลูกชายทั้งสองคนของผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าและตกใจอย่างหนัก ทำให้ยังไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชนได้
ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่ไม่ได้มีท่าทีหรือกล่าวถึงปัญหาขัดแย้งกับผู้ใด และคนในครอบครัวก็ไม่ทราบว่ามีปัญหาใดกับใครมาก่อน ทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นคนเรียบง่าย ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครในชุมชน เหตุการณ์นี้จึงสร้างความตกใจและสงสัยแก่คนใกล้ชิดเป็นอย่างมากว่า เหตุใดเธอจึงต้องเผชิญกับเหตุร้ายแรงเช่นนี้.
