Thai News - June 4, 2025

ต้านไม่ไหว! ค่ายทีบาโบ แตกยับ หลังพยายามโจมตีต่อเนื่องกว่า 3 วัน ทหารเจ็บ-เสียชีวิตร่วม 50 นาย

จังหวัดตาก – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อกองกำลังผสมระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ประสบความสำเร็จในปฏิบัติการทางทหารครั้งประวัติศาสตร์ สามารถเข้ายึด “ค่ายทีบาโบ” ฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกองทัพเมียนมาในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงได้สำเร็จ หลังจากเปิดฉากการสู้รบอย่างดุเดือดเป็นเวลา 3 วันเต็ม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ว่าเสียงปืนที่ดังสนั่นหวั่นไหวต่อเนื่องมาหลายวันบริเวณตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ ได้สงบลงแล้ว หลังมีรายงานยืนยันว่าฝ่ายต่อต้านสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ค่ายทีบาโบได้อย่างสมบูรณ์

ย้อนรอย 3 วันแห่งการต่อสู้ สู่ชัยชนะครั้งสำคัญ

ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน โดยกองกำลังผสม KNU-PDF ได้เข้าปิดล้อมค่ายทีบาโบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบังคับการยุทธวิธีที่ 443 และกองพันทหารราบที่ 32 ของเมียนมา การปะทะทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และมาถึงจุดแตกหักในวันที่ 3 มิถุนายน ซึ่งฝ่ายต่อต้านได้ทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วง มีการใช้ยุทธวิธีผสมผสานทั้งการโจมตีระยะไกลและระยะประชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” ติดอาวุธ บินเข้าทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งและแนวป้องกันของทหารเมียนมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สร้างความปั่นป่วนและกดดันอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันกองกำลังภาคพื้นดินก็ได้เคลื่อนที่เข้าปะทะแบบกระชั้นชิด แม้กองทัพอากาศเมียนมาจะพยายามส่งเครื่องบินรบเข้าทิ้งระเบิดเพื่อสกัดกั้น แต่ก็ไร้ผล ไม่สามารถต้านทานการรุกคืบที่ถูกวางแผนมาอย่างดีได้

จนกระทั่งเวลาประมาณ 19:00 น. ของวันที่ 3 มิถุนายน แนวป้องกันของทหารเมียนมาก็พังทลายลง กองกำลัง KNU-PDF สามารถบุกทะลวงเข้ายึดค่ายทีบาโบ ซึ่งรวมถึงฐานย่อยอีก 3 แห่งโดยรอบได้สำเร็จ เสียงปืนจึงได้ยุติลง ท่ามกลางภาพทหารเมียนมาที่แตกพ่ายและพากันละทิ้งค่ายเพื่อหนีเอาชีวิตรอด

แหล่งข่าวระดับสูงจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เปิดเผยว่า จากการเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในค่ายหลังสิ้นสุดการสู้รบ พบร่างทหารเมียนมาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บรวมกันกว่า 50 นาย ส่วนที่เหลือได้หลบหนีออกจากค่ายไปเป็นจำนวนมาก

ปิดฉาก 20 ปีแห่งการยึดครอง และความสำคัญของ “ค่ายทีบาโบ”

ชัยชนะครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงสัญลักษณ์และยุทธศาสตร์ “ค่ายทีบาโบ” ไม่ใช่เพียงฐานทหารธรรมดา แต่เป็นฐานที่มั่นขนาดใหญ่ที่กองทัพเมียนมายึดครองมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี การเสียค่ายนี้ไปจึงถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของรัฐบาลทหารเมียนมา

ในอดีต กองทัพเมียนมาได้ร่วมมือกับกองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ (DKBA) ซึ่งแยกตัวออกมาจาก KNU ทำการยึดฐานที่มั่นต่างๆ ของ KNU ตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มตั้งแต่การตีแตกของกองบัญชาการใหญ่ “ค่ายมาเนอปลอว์” ไล่ลงมาจนถึงพื้นที่ทางตอนใต้ ซึ่งค่ายทีบาโบก็เป็นหนึ่งในผลพวงของความขัดแย้งในครั้งนั้น การที่ KNU สามารถยึดคืนพื้นที่นี้กลับมาได้ จึงเปรียบเสมือนการพลิกหน้าประวัติศาสตร์และทวงคืนดินแดนที่มีความสำคัญกลับคืนมา

เป้าหมายต่อไป: กวาดล้าง 3 ฐานที่มั่นสุดท้าย

ความสำเร็จในการยึดค่ายทีบาโบได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับฝ่ายต่อต้านเป็นอย่างมาก แหล่งข่าวจาก KNU ยืนยันว่า ปฏิบัติการจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ โดยมีเป้าหมายต่อไปคือการเข้ายึดพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงคืนทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลือที่ตั้งฐานทหารเมียนมาในพื้นที่อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอพบพระและอำเภออุ้มผางของจังหวัดตาก อีกเพียง 3 ฐานที่มั่นสุดท้ายเท่านั้น ได้แก่ ฐานอูเกรทะ, ฐานทีตาแหล่ และฐานทีกะเป่อร์ การรุกคืบครั้งต่อไปจึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อดุลอำนาจทางทหารและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนแห่งนี้ต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *